ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา

แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และโครงการอุ่นใจเมื่อใกล้แพทยสมาคมฯ นําโดยชมรม “ลมวิเศษ” จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และให้กําลังใจแก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองเนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลก “WORLD COPD DAY 2018” พร้อมเปิดตัว “กําไลวิเศษ” สายรัดข้อมืออัจฉริยะพร้อม QR Code เพื่อเป็นช่องทางใหม่ในการดูแลผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองในประเทศไทย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยมี ดร.สมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น

องค์การอนามัยโลกและองค์การโรคถุงลมโป่งพองแห่งโลก (Global Initiative Obstructive Lung Disease: GOLD) ได้กําหนดให้วันพุธสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันโรคถุงลมโป่งพองโลก (World COPD Day) เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของ โรคถุงลมโป่งพองและสนับสนุนให้มีมาตรการการป้องกันและรักษาโรคถุงลมโป่งพองอย่างถูกต้องและเหมาะสมเพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี

รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และกรรมการที่ปรึกษาชมรมลมวิเศษ กล่าวว่า โรคถุงลมโป่งพอง นับเป็นปัญหาสาธารณสุขของประชากรโลก โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณปีละ 3 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยพบผู้ป่วย ประมาณ 1.5 ล้านคน และมีการเสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณ 6,000 คนต่อปีหรือวันละ 16 คน โรคถุงลมโป่งพองจึงถือเป็นโรคร้ายแรงที่ ประเทศไทยควรมีมาตรการป้องกันและรักษาโดยเฉพาะเพื่อลดอุบัติการณ์เกิดโรค เนื่องจากโรคถุงลมโป่งพองส่งผลอย่างมากต่อสังคมและเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการรักษา การเสียโอกาสทางการทํางาน รวมไปถึงการมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงของผู้ป่วยและ ครอบครัวผู้ดูแล สําหรับการรณรงค์ทั่วโลกในปีนี้มุ่งเน้นธีม “Nevertoo early, never too late” นั่นคือ ไม่มีคําว่าเร็วเกินไปสําหรับการมาตรวจวินิจฉัยโรค ยิ่งตรวจได้เร็วเท่าไรก็ลดอาการของโรคได้เร็วขึ้น แต่เมื่อเป็นโรคแล้วก็ไม่สายเกินไปที่จะดูแลรักษา ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่ายแล้วถึงได้มาตรวจโรค ซึ่งเวลานั้นปอดถูกทําลายและเสื่อมสภาพไปแล้วและไม่สามารถฟื้นคืนสภาพเดิมได้ ดังนั้น ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่ ควรมาตรวจสมรรถภาพปอดแต่เนิ่นๆ หากมีการตรวจและรักษาโรคได้เร็ว ก็จะช่วยลดอาการของโรค

สําหรับโรคถุงลมปอดโป่งพองเกิดจากการสูดหายใจเอามลพิษในอากาศ ฝุ่นละออง หรือสารเคมีเป็นปริมาณมากและติดต่อกัน เช่น ควันบุหรี่ ควันพิษในอากาศ โดยสารพิษจากควันจะทําลายถุงลมและปอดให้เสื่อมสภาพ ผู้ป่วยจะมีอาการไอแบบมีเสมหะเป็นๆ หายๆ หอบ เหนื่อยง่ายกว่าปกติและจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจหายใจมีเสียงหวีดในลําคอ และอาจรู้สึกเจ็บหน้าอกร่วมด้วย เมื่อมีอาการรุนแรงมากขึ้นจะเกิดภาวะความดันโลหิตสูงของหลอดเลือดที่ไหลเข้าสู่ปอด ซึ่งมีผลทําให้เกิดภาวะหัวใจวายได้

สมกมล จิราธิวัฒน์ ผู้อํานวยการอาวุโส ฝ่ายกิจการเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จํากัด ในฐานะคณะทํางาน ชมรมลมวิเศษ กล่าวว่ากลุ่มเซ็นทรัล ให้ความสําคัญกับการมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมและร่วมรณรงค์เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดบุหรี่มาโดยตลอด เป็นภาคเอกชนรายแรกที่แสดงเจตนารมย์ ตั้งแต่ปี 2536 จนถึงปัจจุบัน และมุ่งมั่นผลักดันรณรงค์เรื่องนี้ ด้วยการจัดตั้ง โครงการ “เราเลิก (บุหรี่)กัน” ผลักดันให้เป็นองค์กรปลอดบุหรี่ 100% ทั้งนี้โรคถุงลมโป่งพองนับเป็นโรคร้ายแรงและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในสิบอันดับแรกของคนไทย จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ชมรมลมวิเศษถือกําเนิดขึ้นด้วยความห่วงใยและปรารถนาดีจากแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และภาคประชาสังคมที่มีจิตสาธารณะเพื่อสร้างเสริมพลังบวกให้แก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองและครอบครัวเพื่อการใช้ชีวิตร่วมกับโรคอย่างมีคุณภาพ เนื่องจากโรคถุงลมโป่งพองเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด สําหรับการจัดกิจกรรมเนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลกครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้พบปะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ป่วยอื่นๆ ตลอดจนเพื่อการเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลผู้ป่วยและการใช้ดนตรีบําบัด รวมทั้งการตรวจสมรรถภาพปอดและให้คําปรึกษาการเลิกบุหรี่แก่ผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัว ได้เข้าถึงการรักษาเพื่อเปลี่ยนความทุกข์ทรมานที่มีอยู่เดิมเป็นความสุขทั้งกายและใจอย่างแท้จริง

ดร.ปรีชา คฤหวาณิช ประธานบริหาร บริษัท วินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่น จํากัด และประธานที่ปรึกษาภาคประชาสังคม ชมรมลมวิเศษ กล่าวว่า ชมรมลมวิเศษได้จัดเตรียมกําไลวิเศษหรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะสําหรับผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลพื้นฐานที่จําเป็นของผู้ป่วย เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของครอบครัว โรงพยาบาลที่ผู้ป่วยใช้บริการเป็นประจํารวมทั้งโรคที่ผู้ป่วยรับการดูแลรักษาอยู่ โดยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถสแกน QR Code ที่กําไลวิเศษจะปรากฏข้อมูลของผู้ป่วยเพื่อประโยชน์ในการรักษา รวมทั้งข้อมูลเพื่อการดูแลยามฉุกเฉิน เช่น คลิปวิดีโอสั้นในการปั้มหัวใจเพื่อกู้ฟื้นคืนชีพ คลิปสอนการพ่นยาขยายหลอดลมแบบฉุกเฉิน รวมถึงข้อมูลทั่วไปสําหรับการดูแลรักษาโรคถุงลมโป่งพองต่างๆ อีกทั้งยังมีช่องทางในการจัดทําพินัยกรรมชีวิต (Living Will) หรือ เจตนารมณ์ในการรักษาเมื่อผู้ป่วยหมดสติ โดยชมรมฯ คาดหวังว่า กําไลวิเศษจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะสนับสนุนให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพดียิ่งขึ้น

นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จํากัด หรือ จีเอสเค และกรรมการภาคประชา สังคม ชมรมลมวิเศษ กล่าวว่า เพราะสุขภาพดีมีได้ด้วยการแบ่งปัน ชมรมลมวิเศษจึงมีความมุ่งมั่นในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล รักษาผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นโรคที่ทําให้ผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมานและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จึงต้องอาศัยความร่วมมือในทุกมิติ ได้แก่ แพทย์ ผู้ป่วยและครอบครัวผู้ดูแลผู้ป่วย ตลอดจนภาคประชาสังคมต่างๆ ที่มีความต้องการจะช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้นและพร้อมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์และนวัตกรรมในการดูแลผู้ป่วยรวมทั้งการสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ โดยชมรมลมวิเศษได้พัฒนาสื่อความรู้ในการดูแลผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ www.magicbreath.org โซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก ยูทูบ เพื่อการเข้าถึงของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ดูแล และที่สําคัญคือการสร้างนวัตกรรมเพื่อการดูแลตนเองให้ง่ายขึ้นโดยการใช้ “กําไลวิเศษ” สายรัดข้อมืออัจฉริยะ พร้อม QR Code เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดียิ่งขึ้นและเกิดความปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งชมรมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนนี้จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นเพื่อให้ผู้ป่วยก้าวผ่านความทุกข์กังวลและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัว